
หลังจากที่ย้อนเวลากลับไปจุดเริ่มต้นของ ทีมชาติอิตาลี จนถึงปี 1986 ที่มีเรื่องราวมากมายของทีมชาติอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่หน้ายินดีและเรื่องราวที่เป็โศกอนาฏกรรมต่างๆและยุคที่ตกต่ำของฟุตบอลทีมชาติอิตาลี ทีมชาติอิตาลีก็ยังถือว่าล้มลุกคลุกคลานมาตลอดในช่วงนั้นแต่ก็ยังสามารถเรียกความเป็นทีมชาติอิตาลีกลับคืนมาได้เช่นเดียวกัน แต่ถึงแม้ว่าจะได้กลับมาเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกแล้วก็ตามแต่ก็มีช่วงจังหวะหนึ่งในของแต่ละปีที่เขาไม่สามารถไปต่อได้ และรักษาแชมป์ไว้ได้ โดยบางครั้งอาจจะตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือไม่ก็อาจจะตกรอบแรกรอบคัดเลือกเลยก็ว่าได้ อย่างที่ทราบกันดีไม่มีอะไรที่ยั่งยืนกับลูกกลมๆของฟุตบอลอย่างแน่นอน แฟนบอลทั่วโลกทราบกันดีอยู่แล้ว ถึงยังไง ทีมชาติอิตาลี ก็กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้งและเป็นรองแชมป์โลกอีกครั้งในปี 1988 และในปี 1990 ที่ได้กลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง และทำทีมได้ดีมากๆโดยที่ไม่เสียประตูเลยใน 5 นัดแรกของการแข่งขัน แต่ก็ไม่สามารถเป็นแชมป์ได้แพ้ให้อาร์เจนตินาในการดวลจุดโทษไป 3 ต่อ 4 ประตู และในปี 1993 อิตาลีได้ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของโลกเป็นครั้งแรกที่เป็นการจัดอันดับขึ้นของ สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ
รองแชมป์ยุโรปและยุคทองของ โจวันนี 1996-2004

ในปี 1996 ทีมชาติอิตาลีได้ตกรอบแรก ซึ่งกับเรื่องของลูกฟุตบอลบอกได้คำเดียวเลยว่าต้องอย่าหวังกับฟุตบอลลูกกลมๆ 1 ลูกที่อยู่ในสนามเพราะเราคาดเดาไม่ได้เลยว่าเราจะเอาชนะลูกฟุตบอลลูกนี้ได้หรือไม่ ซึ่งต่อมาอิตาลีก็ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกปี 1998 โดยที่แพ้ทีมชาติฝรั่งเศสในการดวลจุดโทษนั่นเอง ต่อมาในปี 2000 เป็นการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2000 แต่ก็ต้องพ่ายให้กับทีมชาติฝรั่งเศษอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศในช่วงต่อเวลาพิเศษนั่นเองและต่อมาถือได้ว่าเป็นยุคถือกำเนิดผู้จัดการทีมอย่าง โจวันนี ตราปัตโตนี แต่ใช่ว่าจะเป็นการจัดการทีมที่ดีเพราะเป็นการจัดการทีมของ โจวันนี ที่ถูกวิพาร์กวิจารณ์กันมากที่สุดและเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดของทีมชาติอิตาลีเลยก็ว่าได้
แชมป์โลกอีก 1 สมัยที่รอคอย

ในปี 2006 ทีมชาติอิตาลี ได้ประกาศตั้ง มาร์ เชลโล ลิปปี เข้ามาทำหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอลโลกแทน โจวันนี ที่ทำผลงานที่ตกต่ำในยุค 2004 และทำหน้าที่ได้ดีมากๆเขาสามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีม 8 ทีม รองชนะเลิศและเข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในฟุตบอลโลกได้ ที่เป็นการแข่งขันระหว่างทีมชาติอิตาลี และทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการพูดเรื่องราวจากแฟนบอลในสนามถึงการปะทะของซูปตาร์ทั้งสองทีม แต่ถึงอย่างไรแล้วทีมชาติอิตาลีก็สามารถเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสด้วยการดวลจุดโทษ ไปถึง 5 ประตูต่อ 3 ประตู จนได้เป็นแชทป์ฟุตบอลโลยสมัยที่ 4 ลำดับต่อไปนั่นเอง