
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวต่างๆของทีมชาติอิตาลีในตอนสุดท้ายที่เกิดขึ้น เริ่มต้นความล้มเหลวอีกครั้งของทีมชาติอิตาลี มาร์เชลโล ลิปปี ได้ประกาศตัวลาออกจากผู้จัดการทีมชาติอิตาลีในการแข่งขันยูโร 2008 และแต่งตั้งโดนาโดนี ขึ้นมาเป็นผู้จักการทีมชาติแทนแต่แล้วแรกๆก็สร้างผลงานได้ดีเยี่ยม พอมาช่วงท้ายๆในช่วง 16ทีมสุดท้ายก็ไม่สามารถไปต่อได้และทำให้แพ้ทีมชาติสเปนไปในการดวลจุดโทษทำให้ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปในที่สุดทำให้ สหพันธ์ฟุตบอลทีมชาติอิตาลี ไม่พอใจเป็นอย่างมากและทำให้เขาตัดสินใจที่จะปลด โดนาโดนี ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมและกลับมาแต่งตั้ง มาร์เซลโล ลิปปี เป็นผู้จัดการทีมอีกครั้ง ต่อมาหลังจากนั้นในปี 2010 พวกเขาตกรอบแรกของหารแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งเป็นเรื่องที่หน้าทึ่งมากๆเพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่เป็นทีมแข็งแกร่งแต่พวกเขาก็แพ้ให้กับทีมชาติสโลวาเกีย จนตกรอบแรกไปในที่สุดนั่นเอง และถือว่าเป็นครั้งแรกของทีมชาติอิตาลีที่ไม่สามารถพ้นรอบแรกไปได้นั่นเอง
ก้าวเติมโตขึ้นอีกครั้งในปี 2010-2014

การประกาศลาออกของผู้จัดการทีมคงเป็นเรื่องปกติของทีมชาติอิตาลีเพื่อหาคนที่เข้ามาเป็นหัวสมองของทีมชาติ ทำให้การเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติอย่างมากโดยที่หลังจากหมดยุคของ มาร์เซลโล ลิปปี ผู้ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งต่อก็คือ เซซาเร่ ปรันเดลลี่ โดยที่พาทีมไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ โดยในรอบชิงชนะเลิศครั้งนั้นเขาแพ้ให้กับทีมชาติสเปนทำได้เพียงเป็นแค่รองแชมป์ยุโรปเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ถือว่าเป็นผลงานที่ดีระดับหนึ่งของผู้จัดการทีมคนใหม่เพราะต่อมาก็ยังเข้ารองรองชนะเลิศรายการอื่นๆเช่นรายการ คอนเฟเดอเรชันคัพ 2013 แต่พ่ายให้กับอุรุกวัยในการดวลจุดโทษนั่นเอง และในปี 2014 ก็เป็นจุดเปลี่ยนของ ปรันเดลลี่ ที่พ่ายแพ้และตกรอบแรกฟุตบอลโลกอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นครั้งที่ 2 ของทีมชาติอิตาลี ซึ่งเขาพบความพ่ายแพ้อีกครั้งกับฟุตบอลโลกทำให้ผู้จัดการทีมอย่าง ปรันโดลี่ ได้ยอมรับความพ่ายแพ้และได้ลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมไปนั่นเอง
ยุคของโรแบร์โต มันชินี ผู้สร้างชื่อเสียงให้ทีมชาติอิตาลี

จากที่เราอ่านเรื่องราวของ โรแบร์โต้ มันชินี มาแล้วมากมายจากแหล่งข่าวอื่นๆซึ่งก็เปิดประวัติต่างๆของโรแบร์โต้ มันชินี่ มามากพอสมควรอยู่แล้วนั้น ในปี 2018 เขาได้รับเลือกจากสมาคมฟุตบอลทีมชาติอิตาลี ให้ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมชาติอิตาลี และมันชินี่นี่แหละที่เป็นหัวสมองที่สำคัญให้กับทีมชาติอิตาลีมาตั้งแต่ปี 2018 ที่เขาได้รับเลือกเพราะเขาเป็นนักเตะสู่ผู้จัดการทีม เขารู้ดีว่านักเตะต้องการอะไร และใช้สมองที่ฉลาดแก้เกมรุกและรับได้อย่างโดดเด่นมากๆนั่นเอง ซึ่งในปี 2020 นี้ มันชินี่ ทำผลงานให้ ทีมชาติอิตาลี ได้โชว์ฟอร์มเทพ และเป็นฟอร์มที่ใครก็เที่ยบชั้นไม่ได้เพราะเขามาเหนือทีมอื่นจริงๆ เขาสามารถเอาชนะทีมแข่งขันจากรอบแบ่งกลุ่ม 10 นัดรวด เก็บได้ 30 คะแนนเต็ม และในวันที่ 11กรกฎาคม ที่ผ่านมา โรแบร์โต้ มันชินี่ ก็ทำให้รู้ว่าเขามีความสามารถที่จะพาทีมชนะเลิศในศึกฟุตบอลยูโร 2020 ได้อย่างขาดรอยนั่นเอง และนี่ก็คือที่มาและความเป็นมาของทีมชาติอิตาลีตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันที่บอกได้เลยว่าเป็นทีมชาติที่ล้มลุกคุกคลานมาโดยตลอด แต่ก็ยังสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้ดีที่สุดนั่นเอง